การดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยยืดอายุการใช้งาน การล้างแอร์เป็นขั้นตอนสำคัญในการบำรุงรักษา ซึ่งควรทำอย่างน้อยทุก 6 เดือน หรือบ่อยกว่านั้นหากใช้งานหนัก หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นมาก

สัญญาณที่บ่งบอกว่าแอร์บ้านของคุณควรได้รับการล้าง:

1. ลมที่ออกมาไม่เย็นหรือแรงน้อยลง: หากลมที่ออกมาจากแอร์ไม่เย็นหรือมีความแรงลดลง อาจเกิดจากฝุ่นสะสมที่แผ่นกรองหรือคอยล์เย็น ทำให้การไหลของอากาศถูกขัดขวาง
   Wattana Air

2. มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เมื่อเปิดแอร์: กลิ่นอับหรือกลิ่นเหม็นที่ออกมาจากแอร์ อาจเกิดจากการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสัญญาณว่าควรล้างแอร์
   Wattana Air

3. มีน้ำหยดหรือรั่วจากตัวเครื่อง: น้ำหยดหรือรั่วจากแอร์ อาจเกิดจากท่อน้ำทิ้งอุดตันหรือคอยล์เย็นสกปรก ซึ่งควรได้รับการทำความสะอาด
   Wattana Air

4. เสียงดังผิดปกติจากเครื่อง: เสียงดังหรือสั่นผิดปกติ อาจเกิดจากพัดลมหรือมอเตอร์ที่สกปรก หรือมีสิ่งแปลกปลอม ซึ่งการล้างแอร์สามารถช่วยแก้ไขได้
   Airdee Service

5. ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ: หากค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ อาจเป็นเพราะแอร์ทำงานหนักขึ้นเนื่องจากความสกปรก การล้างแอร์จะช่วยลดภาระการทำงานและประหยัดพลังงาน
   Jud Pra Kai

วิธีตรวจสอบว่าแอร์บ้านควรล้างหรือไม่:

• ตรวจสอบแผ่นกรองอากาศ: ถอดแผ่นกรองออกมาตรวจสอบ หากพบว่ามีฝุ่นสะสมมาก ควรทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่
  Jud Pra Kai

• สังเกตการทำงานของเครื่อง: เปิดแอร์ที่อุณหภูมิต่ำสุดและสังเกตว่าลมที่ออกมาเย็นและแรงเพียงพอหรือไม่ หากไม่ อาจถึงเวลาที่ต้องล้างแอร์
  Chiang Mai Air Care

• ตรวจสอบท่อน้ำทิ้ง: ดูว่ามีน้ำไหลออกมาปกติหรือไม่ หากไม่มีน้ำไหล อาจเป็นสัญญาณว่าท่อน้ำทิ้งอุดตัน ซึ่งควรทำความสะอาด
  Airdee Service

หากพบสัญญาณเหล่านี้ ควรดำเนินการล้างแอร์หรือเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและทำความสะอาดเพื่อรักษาประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องปรับอากาศและสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

แอร์ไม่เย็นหรือเย็นน้อยลง: หากแอร์ไม่สามารถทำความเย็นได้ตามปกติ อาจเกิดจากน้ำยาแอร์รั่วหรือคอมเพรสเซอร์มีปัญหา

มีกลิ่นไม่พึงประสงค์เมื่อเปิดแอร์: กลิ่นอับหรือกลิ่นเหม็นอาจเกิดจากการสะสมของเชื้อราและแบคทีเรียภายในเครื่อง

เสียงดังผิดปกติจากเครื่อง: เสียงที่ดังขึ้นหรือเสียงแปลก ๆ อาจบ่งบอกถึงปัญหาที่พัดลมหรือมอเตอร์

น้ำหยดหรือรั่วจากตัวเครื่อง: การรั่วไหลของน้ำอาจเกิดจากท่อน้ำทิ้งอุดตันหรือคอยล์เย็นสกปรก

ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ: แอร์ที่ทำงานหนักขึ้นเนื่องจากความสกปรกจะใช้พลังงานมากขึ้น

สาเหตุ: น้ำยาแอร์หมด, แผงคอยล์ร้อนเสีย

วิธีแก้ไข: เติมน้ำยาแอร์, ซ่อมแผงคอยล์ร้อน

สาเหตุ: มอเตอร์พัดลมเสีย, มีสิ่งกีดขวาง

วิธีแก้ไข: เปลี่ยนมอเตอร์, เช็กและเคลียร์ใบพัด

• สาเหตุ: ท่อน้ำทิ้งตัน, แผงคอยล์เย็นสกปรก

• วิธีแก้ไข: ล้างแผงคอยล์เย็น, ทำความสะอาดท่อน้ำทิ้ง

ในเขตเมืองที่มีฝุ่นละอองและมลภาวะสูง การล้างแอร์เป็นประจำจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็น ลดการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย และช่วยประหยัดพลังงาน นอกจากนี้ยังยืดอายุการใช้งานของเครื่องปรับอากาศ

Wattana Air

น้ำยาแอร์หมดหรือไม่? วิธีเช็กง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

1. ตรวจสอบการเป็นน้ำแข็ง: เปิดแอร์สักพักแล้วสังเกตท่อน้ำยาแอร์ที่ต่อออกจากคอยล์ร้อน หากมีน้ำแข็งเกาะ แสดงว่าน้ำยาแอร์ขาด
   Pasair Clean

2. สังเกตความเย็นของลมที่ออกมา: หากลมที่ออกมาไม่เย็นหรือเย็นน้อยลง อาจเป็นสัญญาณว่าน้ำยาแอร์หมด

หากพบสัญญาณเหล่านี้ ควรเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบและเติมน้ำยาแอร์เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม

การดูแลรักษาแอร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เครื่องทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดพลังงาน และส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

แอร์มีกลิ่นเหม็น

แอร์ไม่เย็น

แอร์มีเสียงดัง